แฟนฟุตบอลยุคใหม่น่าจะเคยได้ยินวลีนี้ “อาร์เซนอลยุคไร้พ่าย (The Invincibles)” มาบ้างไม่มากก็ผ่านหู สถิติตำนานการได้แชมป์ที่เปลี่ยนนิยามของความสำเร็จในพรีเมียร์ลีกไปตลอดกาล และเป็นเป้าประสงค์ที่ทีมแชมป์หลาย ๆ ทีมยังไม่สามารถเทียบเทียม พวกเขาคือทีมเดียวในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีกที่สามารถคว้าแชมป์ลีกได้โดยไม่แพ้ใครเลยตลอด 38 นัดของฤดูกาลลีก สร้างสถิติไร้พ่ายต่อเนื่องยาวนานรวมทุกรายการ 49 นัด จึงไม่แปลกที่ทีมชุดนี้ถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ และหนึ่งความลับของความสำเร็จนี้คือ “มิติใหม่ในการเซ็นสัญญา”
จากวิสัยทัศน์ที่เฉียบแหลมของ อาร์แซน เวนเกอร์ ในการเลือกผู้เล่นที่ใช่เข้ามาในช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุด ทั้งตัวนักเตะที่ลงตัวกับทีมบวกกับการเซ็นสัญญาทั้ง 7 คนนี้คือ “จิ๊กซอว์” ที่ค่อย ๆ ประกอบร่างทีมปืนใหญ่ให้สมบูรณ์แบบสู่การเป็นชุดทีมตำนาน ไม่แพ้ ตำนานแมนยู ความเร็ว ความแข็งแกร่ง และความเฉลียวฉลาดถูกกวนผสมเข้าไว้ด้วยกันเป็นเนื้อเดียว ใครบ้างคือเครื่องปรุงรสเด็ดที่เจ้แวนเอามาปรุงเพิ่ม ตามไปดูกันเลย
1. Thierry Henry: ปีกจอมเกเร สู่เครื่องจักรสังหารประตู
- เซ็นสัญญาเมื่อ: 1999 (จากยูเวนตุส)
- ช่วงเวลา: 1999 – 2007 (8 ฤดูกาล)
- สถิติรวม: 376 นัด / 228 ประตู (ดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลสโมสร)

การเซ็นสัญญาที่เปลี่ยนโฉมหน้าประวัติศาสตร์ฟุตบอลของทีมไอปืนใหญ่จนมีตำนานคนใหม่บังเกิดขึ้น อองรี ถูกเวนเกอร์เปลี่ยนจากปีกมาเป็นกองหน้าเบอร์ 9 และกลายเป็นสุดยอดกองหน้าที่เร็วและเด็ดขาดที่สุดในโลก
กับสไตล์การเล่นที่ใช้ความเร็วฉีกแนวรับคู่แข่ง และมีความสามารถในการจบสกอร์ที่เฉียบคมดุจมีดโกนหาใครเทียบ ทำให้ในฤดูกาลไร้พ่าย (03/04) เขาระเบิดฟอร์มทำไป 30 ประตู และ 6 แอสซิสต์ ในพรีเมียร์ลีก เป็นอาวุธหลักที่ขับเคลื่อนทีมคนสำคัญของยุคไร้พ่ายอย่างแท้จริง
2. Sol Campbell: กำแพงเหล็กผู้ปิดทองหลังพระ
- เซ็นสัญญาเมื่อ: 2001 (จากท็อตแนม ฮอตสเปอร์)
- ช่วงเวลา: 2001 – 2006 (5 ฤดูกาล)
- สถิติรวม: 197 นัด / 11 ประตู

การเซ็นสัญญาแบบ ฟรีเอเย่นต์ ที่สั่นสะเทือนวงการบอลอังกฤษที่แฟนบอลสเปอร์ยังลืมไม่ลง กองหลังตัวกลางที่แข็งแกร่ง ทรงพลัง และมีประสบการณ์สูง การยืนคู่กับ Kolo Toure ทำให้แนวรับของอาร์เซนอลเป็นกำแพงเหล็กที่น่าเกรงขามที่สุด ทีมชุดไร้พ่ายเสียเพียง 26 ประตู ในลีก(03/04) ซึ่งเป็นผลงานสำคัญที่มาจากการบัญชาการเกมรับของเขา แคมป์เบลล์คือกุญแจสำคัญที่เติมเต็มความสมดุลและความดุดันในเกมรับ จนทำให้กองหน้าจากทุกทีมต้องขาสั่นยามเลี้ยงบอลมาเผชิญ
3. Patrick Vieira: มิดฟิลด์สายพันธุ์ดุ ผู้สร้างความสมบูรณ์แบบในแดนกลาง
- เซ็นสัญญาเมื่อ: 1996 (จากมิลาน)
- ช่วงเวลา: 1996 – 2005 (9 ฤดูกาล)
- สถิติรวม: 399 นัด / 33 ประตู

กลางตัวเตะ ตัวตัดเกม ให้กองหน้าฝ่ายศัตรูต้องแหยง และคนนี้เป็นการเซ็นสัญญาชิ้นแรก ๆ ของเวนเกอร์ที่เปลี่ยนแดนกลางของอาร์เซนอลให้เป็นศูนย์กลางพลังงาน วิเอร่า คือ กัปตันทีมและหัวใจหลัก ของทีมไร้พ่าย เป็นผู้เล่นบ็อกซ์ทูบ็อกซ์ (Box-to-Box) ที่ครบเครื่องอย่างแท้จริง ด้วยสไตล์การเล่นที่ดุดัน มีพลังในการเข้าปะทะ และการจ่ายบอลสั้นยาวที่แม่นยำ ทำให้กลางตัวสร้างสรรค์และกองหน้าโบยบินทำประตูได้อย่างเริงระบำแบบไร้กังวล เมื่อรู้ว่ามีวิเอร่าค้ำยันให้อยู่ด้านหลัง
มากไปกว่านั้นเขายังมีประตูสำคัญ ๆ ทำให้กับทีมได้ตลอดเวลา ในฤดูกาลไร้พ่าย เขาลงเล่น 29 นัด ทำ 3 ประตู และ 4 แอสซิสต์ เป็นผู้นำที่ควบคุมจังหวะของเกมได้อย่างสมบูรณ์
4. Kolo Toure: เพชรเม็ดงามราคาถูก ผู้ยกระดับเกมรับให้เร็วขึ้น
- เซ็นสัญญาเมื่อ: 2002 (จาก ASEC Mimosas)
- ช่วงเวลา: 2002 – 2009 (7 ฤดูกาล)
- สถิติรวม: 326 นัด / 14 ประตู

เวนเกอร์ค้นพบ ตูเร่ ด้วยราคาเพียง 150,000 ปอนด์ และเปลี่ยนเขาจากกองกลางตัวรับมาเป็นเซ็นเตอร์แบ็กคู่กับแคมป์เบลล์อย่างยอดเยี่ยม ตูเร่นำความเร็วและความคล่องตัวมาสู่แนวรับ ทำให้ทีมสามารถยืนสูงและใช้ Offside Trap ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในฤดูกาลไร้พ่าย (03/04) เขาลงเล่นไปถึง 37 นัด (เกือบครบทุกนัด) ซึ่งพิสูจน์ถึงความสำคัญที่ขาดไม่ได้ของเขาในการสร้างสถิติการเสียประตูที่ต่ำ
5. Robert Pires: ปีกซ้ายจอมพลิ้ว ผู้สร้างสรรค์โอกาส
- เซ็นสัญญาเมื่อ: 2000 (จากมาร์กเซย)
- ช่วงเวลา: 2000 – 2006 (6 ฤดูกาล)
- สถิติรวม: 284 นัด / 85 ประตู

ปิแรส คือจอมสร้างสรรค์เกมที่สามารถประสานงานกับอองรีได้อย่างลงตัวที่สุด มีจุดเด่นในการหาพื้นที่ว่างในแดนหน้า และใช้การเลี้ยงบอลที่พลิ้วไหวเพื่อเจาะแนวรับคู่แข่ง สไตล์การเล่นของเขาคือปีกที่สามารถทำประตูได้เองนิดหน่อย ในฤดูกาลไร้พ่าย เขาทำผลงานได้น่าทึ่งด้วย 14 ประตู และ 10 แอสซิสต์ ในพรีเมียร์ลีก ทำให้เขามีส่วนร่วมโดยตรงกับประตูรวมกว่า 24 ลูก เป็นตัวสร้างสรรค์เกมคนสำคัญที่สุดคนหนึ่งของทีม และเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่พาให้ไอปืนใหญ่บินสูงได้ถึงขนาดไร้ผู้ต่อกร
6. Jens Lehmann: ตัวแทน Seaman ผู้มาพร้อมบุคลิกที่แตกต่าง
- เซ็นสัญญาเมื่อ: 2003 (จากดอร์ทมุนด์)
- ช่วงเวลา: 2003 – 2008 (5 ฤดูกาล)
- สถิติรวม: 200 นัด (ผู้รักษาประตู)

เมื่อบอกว่าแชมป์ไร้พ่าย ตำแหน่งสำคัญที่สุดน่าจะไม่พ้นโกล และคนนี้ยังคงเป็นตำนานของทีมจรดปัจจุบัน เลห์มันน์ ถูกซื้อมาแทนที่ เดวิด ซีแมน ตำนานที่เพิ่งอำลาทีม และแม้จะมาพร้อมบุคลิกที่ดุดันและกล้าได้กล้าเสีย แต่เขานำความมั่นใจและความแข็งกร้าวมาสู่เกมรับ ในฤดูกาลไร้พ่าย (03/04) เขาลงเล่นครบ 38 นัด และเป็นกำลังสำคัญที่ช่วยให้ทีมเสียเพียง 26 ประตู การเซ็นสัญญาผู้รักษาประตูคนนี้เข้ามาท่ามกลางแรงกดดันเพราะการจากไปของตำนานซีแมน แสดงให้ว่าเวนเกอร์ไม่เพียงแค่เห็นฝีมือที่อยู่ในตัว เลห์มันน์ แต่เขายังกล้าที่จะเสี่ยงเพื่อนำคุณสมบัติที่แตกต่างมาสู่ทีมจนคว้าแชมป์ได้ในท้ายสุด
7. Freddie Ljungberg: มิดฟิลด์ตัวรุกผู้ยิงประตูสำคัญ
- เซ็นสัญญาเมื่อ: 1998 (จาก Halmstads BK)
- ช่วงเวลา: 1998 – 2007 (9 ฤดูกาล)
- สถิติรวม: 328 นัด / 71 ประตู

ลุงเบิร์ก คือการเซ็นสัญญาที่คุ้มค่าอีกครั้งของเวนเกอร์ เขามีสไตล์การเล่นเป็นมิดฟิลด์ตัวรุกที่ขยันวิ่งหาพื้นที่ และเติมเกมรุกเข้ากรอบเขตโทษได้อย่างชาญฉลาด เขาเป็นผู้เล่นที่มักทำประตูในจังหวะสำคัญได้เสมอ ในฤดูกาลไร้พ่าย เขาลงเล่น 30 นัด ทำ 4 ประตู และ 5 แอสซิสต์ เป็นผู้เล่นที่เชื่อมเกมรุกให้มีความลื่นไหลและทำให้คู่แข่งไม่สามารถโฟกัสแค่ Henry และ Pires ได้เพียงอย่างเดียว แต่ถ้าคุณเผลอเมื่อไร ตัวรุกคนนี้ก็พร้อมที่จะยิงหรือจ่ายให้เพื่อนได้ทุกเมื่อ
7 การเซ็นสัญญานี้แสดงให้เห็นถึงกึ๋นของตำนานโค้ช อาร์แซน เวนเกอร์ ในการสร้างทีมแบบค่อยเป็นค่อยไป ผ่านผู้เล่นที่ไม่ได้ถูกซื้อมาพร้อมกันในตลาดนักเตะเดียว หากแต่เป็นการสร้างรากฐานและเติมเต็มในส่วนที่ขาดหายอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งได้ส่วนผสมที่กลมกล่อมรสชาติหาใครเทียบ
เวนเกอร์ผสมทั้งสตาร์ระดับโลกอย่างอองรี, ผู้นำอย่างวิเอร่า, กองหลังฟรีเอเย่นต์อย่างแคมป์เบลล์ ไปจนถึงเพชรราคาถูกอย่างโคโล่ ตูเร่ ผู้เล่นเหล่านี้รวมกันสร้างปรากฏการณ์ The Invincibles ที่ทำให้สถิติ 49 นัดไร้พ่าย กลายเป็นยุคที่ถูกจารึกและไม่มีใครลืมเลือนจากประวัติศาสตร์ฟุตบอลอังกฤษไปตลอดกาล และน่าจะอีกนาน